ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 42.21 จุด หลังเฟดเผยรายงานการประชุม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 12, 2017 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นเงินเฟ้อ โดยเจ้าหน้าที่หลายคนมองว่าเฟดควรประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวได้ช่วยลดกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และซิตี้กรุ๊ป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,872.89 จุด เพิ่มขึ้น 42.21 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,555.24 จุด เพิ่มขึ้น 4.60 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,603.55 จุด เพิ่มขึ้น 16.30 จุด หรือ +0.25%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮอีกครั้งเมื่อคืนนี้ หลังจากเฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นเงินเฟ้อ โดยเจ้าหน้าที่เฟดจำนวนหนึ่งยังคงมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล หากแนวโน้มเศรษฐกิจระยะกลางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดบางคนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้น ควรพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่บางคนมองว่า เฟดยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะกลาง

นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด และแนะนำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้

หุ้นแบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปรับตัวขึ้น 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 5.92 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.56 ดอลลาร์ ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทพุ่งขึ้น 17% ใกล้ระดับ 6 ล้านล้านดอลลาร์ หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากเดลต้า แอร์ไลน์ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.57 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์ และรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.106 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.103 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์ ปรับตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทประกาศแผนอัดฉีดเงินทุนเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เพื่อพัฒนาโครงการวิจัยอันทันสมัย โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับบริษัทอเมซอนดอทคอม และอัลฟาเบท

ส่วนหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นและมีส่วนช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกนั้น หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และหุ้นแมคโดนัลด์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1%

นักลงทุนยังคงจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาโก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ