ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินปอนด์ หลังกระบวนการเจรจา Brexit ระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับสหภาพยุโรปไม่คืบหน้า
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 22.43 จุด หรือ +0.30% ปิดที่ 7,556.24 จุด ซึ่งสูงกว่าระดับปิดสูงสุดที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7,547.63 เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ปีนี้
ปอนด์ดิ่งลงเทียบดอลลาร์และยูโร หลังการเจรจาว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ประสบภาวะชะงักงัน โดยนายมิเชล บาร์นิเยร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจา Brexit จากฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า สหราชอาณาจักรยังคงไม่พร้อมที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับพันธกรณีด้านการเงินที่จำเป็นต้องจ่ายให้แก่ EU ก่อนที่จะแยกตัวออกไป ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีการเจรจาในประเด็นดังกล่าว
ปอนด์ร่วงลง 0.39% สู่ระดับ 1.3173 ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.23% สู่ระดับ 1.1122 ยูโร หลังจากที่มีการรายงานคำกล่าวของนายบาร์นิเยร์ ซึ่งมีขึ้นภายหลังสิ้นสุดการประชุมเจรจา Brexit เป็นรอบที่ 5 เมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่สหราชอาณาจักรและ EU จะหารือกันในประเด็นการค้า ทั้ง 2 ฝ่ายจำเป็นจะต้องมีการคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับวงเงินที่สหราชอาณาจักรจะต้องจ่ายให้แก่ EU ก่อนที่จะแยกตัวออกไป ซึ่งประเด็นดังกล่าวนับเป็นประเด็นที่มีความยุ่งยากมากที่สุด และไม่มีความคืบหน้านับตั้งแต่ที่สหราชอาณาจักรประกาศความตั้งใจที่จะแยกตัวออกจาก EU
อย่างไรก็ดี นายบาร์นิเยร์ระบุว่า มีความคืบหน้าในการเจรจาประเด็นสิทธิของประชาชน และเขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีพัฒนาในเชิงบวกในการเจรจาอีกครั้งในช่วง 2 เดือนข้างหน้า
ทางด้านนายเดวิด เดวิส ตัวแทนการเจรจาจากสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับวงเงินที่จะต้องจ่ายให้แก่ EU เป็นเรื่องที่จะต้องใช้เวลา และเขาคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงในอนาคต
โดยปกติแล้ว ดัชนีหุ้นอังกฤษจะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินปอนด์ เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีต่อรายได้และผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษ
นักวิเคราะห์อาวุโสรายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดหุ้นอังกฤษนั้นถือว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกระบวนการ Brexit
หุ้นสกายพุ่งขึ้น 1.4% หลังบริษัทเพย์ทีวีรายใหญ่เผยจำนวนลูกค้ารายใหม่เพิ่มสูงขึ้นถึง 51% จากปีที่แล้ว โดยได้อานิสงส์จากซีรี่ย์สุดฮิตอย่าง Game of Thrones ที่ช่วยให้ทางสถานีมีลูกค้าใหม่ 160,000 รายในไตรมาสแรกของปีงบการเงินปัจจุบัน
นอกจากนี้หุ้นบวกยังได้แก่ หุ้นเซนต์เจมส์ เพลส ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ที่ทะยานขึ้น 4.07% หุ้นเซนทริกา บริษัทสาธารณูปโภคข้ามชาติ บวกกว่า 4% และฮาร์กรีฟ แลนส์ดาวน์ บวก 2.88%
ด้านหุ้นลบนำโดย สมิทส์ กรุ๊ป บริษัทวิศวกรรม ลดลง 1.24% หุ้นเน็กซ์ บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ลบ 1.21% และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลดลง 0.85%