ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือภายหลังจากที่ทูตเกาหลีเหนือออกโรงเตือนว่าความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้มาถึงจุดวิกฤตที่อาจจะปะทุเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ทุกเมื่อ ส่วนราคาพันธบัตรออสเตรเลียปรับตัวลงจากกระแสคาดการณ์ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ที่อาจจะมีจุดยืนด้านนโยบายที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,744.01 จุด เพิ่มขึ้น 51.21 จุด, +0.18% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 32,654.41 จุด เพิ่มขึ้น 20.77 จุด, +0.06% และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,753.32 จุด ลดลง 1.05 จุด, -0.06%
ศูนย์ข่าวแห่งรัฐสภาจีนประกาศอย่างเป็นทางการว่า การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 มีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 18 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยการประชุมจะจัดขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง และจะมีการถ่ายทอดสดพิธีเปิดการประชุมทางช่อง "China Central Television"
สำหรับจำนวนวันในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในครั้งนี้ ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งที่แล้วซึ่งมีขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน การประชุมได้จัดขึ้นเป็นเวลานานถึง 8 วัน
ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเกาหลีเหนือนั้น นายคิม อิน รยอง รองเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้ดำเนินมาถึงจุดวิกฤตแล้ว และอาจปะทุเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ทุกเมื่อ
นายคิมกล่าวต่อคณะกรรมการด้านการลดอาวุธของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวในโลกที่เผชิญภัยคุกคามโดยตรงจากนิวเคลียร์ของสหรัฐนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงมีสิทธิในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตนเอง
ธนาคารกลางออสเตรเลียได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า การที่ธนาคารกลางของหลายประเทศเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ถือเป็นความคืบหน้าในเชิงบวก แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย
รายงานการประชุมระบุว่า ช่วงเวลาในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางออสเตรเลียยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายการเงินของประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายมากกว่าในออสเตรเลีย นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก