ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 40.48 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 18, 2017 06:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ยังคงเดินหน้าปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนก.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,997.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,559.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด หรือ +0.07% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,623.66 จุด ลดลง 0.35 จุด หรือ -0.01%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 23,000.00 จุดเป็นครั้งแรกในระหว่างวัน ก่อนที่จะขยับลงมาปิดตลาดที่ระดับ 22,997.44 จุด ซึ่งก็ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.90 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.80 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.965 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.928 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ทะยานขึ้น 5.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของยูไนเต็ดเฮลธ์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพดีดตัวขึ้น 1.3%

หุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 2 % หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 40 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 39 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 962.1 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 953.3 ล้านดอลลาร์

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 93 เซนต์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 81 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 9.197 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 9.015 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.6% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 5.02 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 8.33 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.54 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.6% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/2560 หลังจากจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการของเน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านราย

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ