ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) ด้วยอานิสงส์จากสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 26.70 จุด หรือ +0.36% ปิดที่ 7,542.87 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับแรงกดดันจากรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า อัตราค่าจ้างแรงงานในช่วง 3 เดือนสิ้นสุด ณ เดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 0.4% เมื่อไม่รวมเงินโบนัส และลดลง 0.3% เมื่อรวมเงินโบนัส ซึ่งเป็นตัวเลขที่อาจสร้างความวิตกให้แก่บรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่อัตราว่างงานในสหราชอาณาจักรอยู่ในระดับทรงตัวที่ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1975 และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตลาดหุ้นลอนดอนจะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลอัตราค่าจ้างล่าสุดของอังกฤษ แต่กระนั้น หุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติก็ได้รับอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.3180 ดอลลาร์ จากที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1.3210 ดอลลาร์ ภายหลังจากที่ ONS ได้เผยแพร่รายงานดังกล่าว
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่น่าจับตา หุ้นริโอ ทินโต ร่วงลงเกือบ 3% หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงต่อบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลียรายนี้ รวมถึงอดีตผู้บริหารของบริษัทอีก 2 ราย เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นได้รายงานมูลค่าสินทรัพย์สูงเกินจริงเพื่อปกปิดตัวเลขขาดทุน