ดาวโจนส์ดีดตัวทำนิวไฮ รับอานิสงส์วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติงบฯปี 2561 ปูทางร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 20, 2017 21:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขานรับวุฒิสภาสหรัฐที่ให้การอนุมัติงบประมาณประจำปี 2561 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะปูทางไปสู่การพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ณ เวลา 21.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,232.55 จุด เพิ่มขึ้น 69.51 จุด หรือ 0.30%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยทางทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ผลการสำรวจ CNBC Fed Survey พบว่า ตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเลือกนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด เป็นประธานเฟดคนใหม่

การสำรวจดังกล่าวครอบคลุมถึงนักเศรษฐศาสตร์ ผู้จัดการกองทุน และนักวิเคราะห์จากตลาดหุ้นวอลล์สตรีท จำนวน 47 ราย ซึ่งจากจำนวนนี้ 45% เชื่อว่า ปธน.ทรัมป์จะเลือกนายพาวเวล เป็นประธานเฟดคนใหม่ ขณะที่นายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ตามมาเป็นที่ 2 โดยได้ 23% และนายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด มาเป็นอันดับ 3 โดยได้ 17%

อย่างไรก็ดี ต่อคำถามที่ว่า ปธน.ทรัมป์ควรจะเลือกผู้ใดเป็นประธานเฟด เพื่อให้การเปลี่ยนตัวประธานเฟดเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่กระทบต่อตลาดการเงิน ผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่จำนวน 44% ต้องการให้ปธน.ทรัมป์เลือกนางเยลเลน ขณะที่ 20% ต้องการให้เลือกนายเทย์เลอร์ ส่วนนายพาวเวลตามมาเป็นอันดับ 3 โดยได้ 17%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยกำไรในเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

P&G เปิดเผยกำไรที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.08 ดอลลาร์/หุ้น

อย่างไรก็ดี P&G เปิดเผยยอดขายที่ระดับ 1.665 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.669 หมื่นล้านดอลลาร์

บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยผลกำไรในไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาด โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง

GE ระบุว่า บริษัทมีกำไร 29 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 49 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 3.347 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.256 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ