ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) พร้อมเดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่อง ขานรับวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งจะปูทางไปสู่การพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,328.63 จุด พุ่งขึ้น 165.59 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,575.21 จุด เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ +0.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,629.05 จุด เพิ่มขึ้น 23.99 จุด หรือ +0.36%
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณปี 2561 วงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียง 51-49 คะแนน ซึ่งจะกรุยทางสู่การพิจารณาแผนปฏิรูประบบภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อไป
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยทางทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สื่อรายงานว่า นายพาวเวล ได้กลายเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆของผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่ประธานเฟดคนต่อไป ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประชุมร่วมกับแคนดิเดททั้ง 5 ไปเมื่อวันพฤหัสบดี
หุ้น P&G ร่วง 3.7% หลังจากบริษัทเผยกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์ แต่ยอดขายออกมาต่ำกว่าคาด
พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยผลประกอบการในเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท ระบุกำไรอยู่ที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.08 ดอลลาร์/หุ้น
อย่างไรก็ดี P&G เปิดเผยยอดขายที่ระดับ 1.665 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.669 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนหุ้น GE เพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้สืบเนื่องจากผลกำไรที่ต่ำกว่าคาด
บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยผลกำไรในไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาด โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง
GE ระบุว่า บริษัทมีกำไร 29 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 49 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 3.347 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.256 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นเพย์พาลพุ่งขึ้น 5.5% หลังจากรายงานกำไรสุทธิ 380 ล้านดอลลาร์ หรือ 31 เซนต์/หุ้น ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจากระดับ 323 ล้านดอลลาร์ หรือ 27 เซนต์/หุ้นในช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว
ตลอดสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2% ส่วนดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.9% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.4%