ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 26.18 จุด หลังอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐ รับเคยโกหก FBI ประเด็นรัสเซีย

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 2, 2017 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) หลังจากที่นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมายอมรับว่า ตนได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการสนทนาร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 26.18 จุด หรือ -0.36% ปิดที่ 7,300.49 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่สืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ให้การเท็จต่อ FBI เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับนายนายเซอร์เกย์ คิซยัค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบในปีที่แล้ว

ด้านฟลินน์ระบุในแถลงการณ์ว่า "การรับสารภาพของผมและการตกลงให้ความร่วมมือกับคณะสืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของทรัมป์ สะท้อนให้เห็นการตัดสินใจของผมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของครอบครัวของผมและประเทศของเรา และผมจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป"

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกระบวนการลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาสหรัฐในขณะนี้ ซึ่งกำลังประสบกับความล่าช้า หลังยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล

นักวิเคราะห์มองว่า การเมืองสหรัฐในขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะช่วงเวลาของการที่ฟลินน์ออกมายอมรับว่าเคยให้การเท็จกับ FBI อาจส่งผลกระทบต่อการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้

สำหรับความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาได้แก่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างหุ้นบาร์เคลย์ที่ปรับตัวลง 2.1% เช่นเดียวกับหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ที่ปรับตัวลง 1.9% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ที่ปรับตัวลง 2.1% เนื่องจากได้รับแรงกดดันเกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐที่ล่าช้า ขณะที่หุ้นรอยัลแบงก์ออฟสก็อตแลนด์ ปรับตัวลง 2.4% หลังบริษัทประกาศเตรียมปิดธนาคารในสังกัดกว่า 259 สาขา และปลดพนักงานกว่า 680 ตำแหน่งเพื่อลดต้นทุน

ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างบีพี พีแอลซี ปรับตัวขึ้น 0.6% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 0.2% หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการที่ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปก เห็นพ้องให้ขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ