ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 58.46 จุด ขานรับวุฒิฯสหรัฐอนุมัติร่างกม.ปฏิรูปภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 5, 2017 07:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดยังคงขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการที่หุ้นในกลุ่ม FAANG ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,290.05 จุด เพิ่มขึ้น 58.46 จุด หรือ +0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,775.37 จุด ลดลง 72.22 หรือ -1.05% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,639.44 จุด ลดลง 2.78 จุด หรือ -0.11%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุน หลังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นนายบ็อบ คอร์กเกอร์ ต่างลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว

หลังจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

ความแตกต่างสำคัญระหว่างร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในฉบับของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรคือ ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจะกำหนดให้การปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้ทันทีในปีหน้า ในขณะที่ร่างของวุฒิสภาจะชะลอการปรับลดภาษีจนกว่าจะถึงปี 2562

นายเจเรมีย์ ซิเกล ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านการเงินจากวอร์ตัน สคูล คาดการณ์ว่า ดัชนีดาวโจนส์จะสามารถพุ่งขึ้นแตะระดับ 25,000 จุดในไม่ช้า โดยได้รับแรงหนุนจากการที่วุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

นายซิเกลคาดว่าดัชนีดาวโจนส์จะสามารถแตะระดับ 25,000 จุด โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจเพียงไม่กี่วัน

ก่อนหน้านี้ นายซิเกลสามารถทำนายการปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์ได้อย่างถูกต้องในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยเขาเป็นผู้ทำนายตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ดาวโจนส์จะสามารถแตะระดับ 20,000 จุด และเขาสามารถคาดการณ์อย่างถูกต้องเมื่อไม่นานมานี้ในการกล่าวว่าดาวโจนส์จะขึ้นแตะระดับ 24,000 จุด

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ นำโดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ที่ปรับตัวขึ้น 3.4% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ที่ปรับตัวขึ้น 2.1%

ส่วนหุ้นในกลุ่ม FAANG ซึ่งประกอบด้วย เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และกูเกิล ปรับตัวลดลงทั้งหมด โดยหุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวลดลง 2.1% หุ้นแอปเปิลปรับตัวลดลง 0.7% หุ้นอเมซอนปรับตัวลดลง 2.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปรับตัวลดลง 1.5% และหุ้นอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวลดลง 1.3%

หุ้นเอทนา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกัน ปรับตัวลดลง 1.4% หลังซีวีเอส เฮลท์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ ประกาศซื้อกิจการบริษัทเอทนาในวงเงิน 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ด้วยเงินสดและหุ้น ส่วนหุ้นซีวีเอสปรับตัวลดลง 4.6%

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงซื้อกิจการในวงเงินสูงที่สุดในปีนี้ และมีขึ้นในขณะที่บริษัทประกันถูกกดดันให้ลดต้นทุนด้านการแพทย์ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานจะลดลง 0.4% ในเดือนต.ค.

การปรับตัวลงของคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับผลกระทบจากการลดลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ