ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากตลาดยังคงขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 3.50 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 387.47 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,389.29 จุด เพิ่มขึ้น 72.40 จุด หรือ +1.36% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,058.55 จุด เพิ่มขึ้น 197.06 จุด หรือ +1.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,338.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.48 จุด หรือ +0.53%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้รับแรงหนุน หลังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นนายบ็อบ คอร์กเกอร์ ต่างลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว
หลังจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป
สำหรับข่าวอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรป นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า ถึงแม้อังกฤษและ EU ใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการเจรจา และมีความคืบหน้ามากขึ้น แต่ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงอย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ นายยุงเกอร์ยังกล่าวเสริมว่า EU ได้ขยายกำหนดเวลาเส้นตาย 10 วันออกไป โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะเจรจากันอีกภายในสัปดาห์นี้
สำหรับหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดได้แก่หุ้นกลุ่มการเงิน โดยหุ้นดอยซ์ แบงก์ ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% หุ้นบาร์เคลย์ส ตลาดหุ้นอังกฤษ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6% และหุ้นโซซิเอเต เจเนอรัล (ซอคเจน) ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4%