ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 39.73 จุด เหตุหุ้นพลังงานร่วงหลังราคาน้ำมันดิ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 7, 2017 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 3% นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงที่ฉิวเฉียดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,140.91 จุด ลดลง 39.73 จุด หรือ -0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,629.27 จุด ลดลง 0.30 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,776.38 จุด เพิ่มขึ้น 14.16 จุด หรือ +0.21%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 0.7% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.6% และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ร่วงลงกว่า 2% โดยปัจจัยที่ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานนั้น มาจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดิ่งลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นโฮม ดีโปท์ ร่วงลง 1.12% หลังจากบริษัทประกาศแผนซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส ดิ่งลง 1.7% หลังจากบริษัทได้ออกแถลงการณ์เตือนเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดส่งสินค้า

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 51-49 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นนายบ็อบ คอร์กเกอร์ ต่างลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ แต่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว

ทั้งนี้ สภาคองเกรสสหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

สำหรับความแตกต่างสำคัญระหว่างร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในฉบับของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรคือ ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจะกำหนดให้การปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้ทันทีในปีหน้า ในขณะที่ร่างของวุฒิสภาจะชะลอการปรับลดภาษีจนกว่าจะถึงปี 2562

อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวกหลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นไมโครซอฟท์ หุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1% ขณะที่หุ้นอเมซอนดอทคอม ขยับขึ้น 0.9%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 235,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.0% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2557 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5% ในไตรมาส 2

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้นเพียง 188,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าเดือนต.ค.ที่เพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.จะขยับขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ