ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 102.80 จุด รับคาดการณ์ผลประกอบการสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 10, 2018 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) ขานรับมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีจะลดน้อยลง หลังจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้หันหน้าเจรจากันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,385.80 จุด พุ่งขึ้น 102.80 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,751.29 จุด เพิ่มขึ้น 3.58 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,163.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.19 จุด หรือ +0.09%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าบริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4/2560 ที่สดใส ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างผลสำรวจของรอยเตอร์ว่า บริษัทสหรัฐที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 จะมีผลกำไรเพิ่มขึ้นราว 11.8% และจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 6.9% ในไตรมาส 4/2560

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จในการจัดการประชุมระดับสูงกับเกาหลีใต้ที่หมู่บ้านปันมูนจอมในเขตปลอดทหารในบริเวณชายแดนของเกาหลีทั้งสองเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้หารือในหลักการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสร้างความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 23 ในเกาหลีใต้ และการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีทั้งสอง

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐ โดยธนาคารรายใหญ่อย่างเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และแบล็คร็อค จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะที่นายสตีเฟน กวิลฟอยล์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Sarge986 LLC คาดการณ์ว่า ผลกำไรของภาคธนาคารจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3%-3.5% ในไตรมาส 4/2560

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับตัวขึ้น 0.5% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 0.35% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดตัวขึ้น 0.5%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 1% โดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวขึ้น 1.6% หุ้นจีเลียด พุ่งขึ้น 5% และหุ้นบอสตัน ซายแอนติฟิก ทะยานขึ้น 8.3%

หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหัฐ พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ดีเกินคาดในช่วงเทศกาลวันหยุด พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 4/2560

หุ้นอาลีบาบา ขยับขึ้น 0.3% หลังจากนายแจ็ค หม่า ประธานบริษัทอาลีบาบาได้ให้คำมั่นว่า เขาจะพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการนำหุ้นอาลีบาบาเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดฮ่องกงอีกครั้ง หลังจากนางแคร์รี่ แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวเชิญชวนให้อาลีบาบานำหุ้นเข้าเทรดในตลาดฮ่องกง

หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.5% หลังจากไมโครซอฟต์ได้ออกมาระบุว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปรุ่นเก่าของอินเทลนั้น ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนธ.ค.ในวันพรุ่งนี้ และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคานำเข้า-ดัชนีราคาส่งออกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ