ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า มาตรการปรับลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ และกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ การที่นักลงทุนคลายความวิตกต่อข่าวที่ว่า จีนอาจยุติการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตลาด
ณ เวลา 22.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,459.61 จุด เพิ่มขึ้น 90.48 จุด หรือ 0.36%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
หุ้นโบอิ้ง, เจเนอรัล อิเลคทริค และแคทเทอร์พิลลาร์ ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ อิงค์ ซึ่งเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด พุ่งขึ้น 2% หลังเปิดเผยว่า ทางสายการบินมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เดลต้าระบุว่า สายการบินมีกำไร 96 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 88 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 1.025 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.013 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ของธนาคารขนาดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ เช่น เจพีมอร์แกน เชส และเวลส์ ฟาร์โก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐจะพุ่งขึ้นเฉลี่ย 10.6% ในไตรมาส 4
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 0.07% เมื่อคืนนี้ หลังจากดิ่งลงกว่า 100 จุดในการซื้อขายระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า จีนอาจยุติการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ในเร็วๆนี้
ทางด้านสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ออกแถลงการณ์ระบุว่า รายงานข่าวที่ออกมาว่าทางการจีนกำลังพิจารณาชะลอหรือยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐนั้น อาจเกิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และอาจเป็น "ข่าวลวง"
"ข่าวดังกล่าวอาจจะอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง" SAFE ระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ SAFE มีขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนซึ่งมีหน้าที่พิจารณาการถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ได้เสนอให้รัฐบาลจีนชะลอ หรือยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
แหล่งข่าวระบุว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีความน่าดึงดูดลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากนี้ ความตึงเครียดของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้จีนลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐ
รายงานข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตื่นตระหนก โดยตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงกว่า 100 จุดในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อคืนนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดพันธบัตรสหรัฐ และสร้างความวิตกต่อนักลงทุน
ทั้งนี้ จีนนับเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดในโลก และมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงที่สุดในโลก