ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 322.79 จุด หลังเฟดเผยศก.สหรัฐแนวโน้มสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 18, 2018 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลแนว 26,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ "Beige Book" ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดี และมีแนวโน้มที่สดใสในปี 2561 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,115.65 จุด พุ่งขึ้น 322.79 จุด หรือ +1.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,802.56 จุด เพิ่มขึ้น 26.14 จุด หรือ +0.94% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,298.28 จุด เพิ่มขึ้น 74.59 จุด หรือ +1.03%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางในช่วงปลายเดือนพ.ย.2560 จนถึงต้นปี 2561 ขณะที่ค่าแรงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางเขตรายงานว่า บริษัทเอกชนในเกือบทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมได้ปรับเพิ่มค่าแรงและตำแหน่งงาน

รายงาน Beige Book ยังระบุด้วยว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจทั่วประเทศของสหรัฐในปี 2561 ยังคงสดใส โดยเขตส่วนใหญ่รายงานว่า ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวและยังสามารถเปิดรับพนักงานที่มีความสามารถในทุกภาคส่วน

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน โดย FactSet ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านการเงินระบุว่า ในบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งมีการรายงานผลประกอบการแล้วนั้น บริษัทจำนวน 69% รายงานตัวเลขกำไร/หุ้นสูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่ 85% รายงานกำไรสุทธิสูงกว่าคาด

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในการทำความร้อน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐ หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากโบอิ้งประกาศความร่วมมือกับบริษัทเอเดียนท์ เพื่อผลิตที่นั่งสำหรับเครื่องบิน โดยเอเดียนท์เป็นผู้ผลิตที่นั่งรถยนต์รายใหญ่

หุ้นไอบีเอ็ม พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไอบีเอ็ม สู่ระดับ "overweight" และได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นไอบีเอ็มขึ้น 59 ดอลลาร์ สู่ระดับ 192 ดอลลาร์

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง หลังจากธนาคารระบุว่า มูลค่าการซื้อขายในธุรกิจตราสารหนี้, สินค้าโภคภัณฑ์ และปริวรรตเงินตรา ร่วงลง 50% ในไตรมาส 4/2560 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 0.2% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้ 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2560 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.15 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ร่วงลง 4.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากจีอีระบุว่า การปรับพอร์ทธุรกิจด้านการประกันของจีอี แคปิตอล อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 4/2560 ของจีอี

นักลงทุนจับตาว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันก่อนวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.นี้หรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ขณะที่ตลาดการเงินกังวลว่า ความขัดแย้งทางการเมืองของสหรัฐในขณะนี้อาจส่งผลให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการชัตดาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันในเรื่องนโยบายรับคนเข้าเมือง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ