ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 29.83 จุด จากปอนด์อ่อน, หุ้นอีซี่เจ็ตพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 20, 2018 05:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นปิดแดนบวกเป็นวันแรกในรอบห้าวันทำการเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ร่วงลงเกินคาด ขณะที่หุ้นอีซี่เจ็ต สายการบินต้นทุนต่ำ พุ่งทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบสองเดือน หลังได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,730.79 จุด ปรับตัวขึ้น 29.83 จุด หรือ 0.39% อย่างไรก็ตาม ทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวลง 0.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบเจ็ดสัปดาห์

สำหรับภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนในวันศุกร์ ฟุตซี่ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่ปิดแดนลบมาสี่วันติดต่อกัน โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีต่อรายได้และผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษ โดย ณ เวลาหนึ่ง เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3858 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3895 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ เงินปอนด์ถูกกดดันจากการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาของสหราชอาณาจักร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรดิ่งลงมากกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยร่วงลง 1.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย.

ONS ระบุว่า ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าในเดือนพ.ย.เนื่องจากได้รับข้อเสนอที่น่าจูงใจจากการลดราคาสินค้าในวัน Black Friday ซึ่งตรงกับวันที่ 24 พ.ย. แทนที่จะรอซื้อสินค้าในเดือนธ.ค.

เมื่อพิจารณาทั้งปี 2560 ยอดค้าปลีกมีการขยายตัว 1.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556

ONS ยังคาดการณ์ด้วยว่า ยอดค้าปลีกยังคงมีแนวโน้มที่ซบเซาในระยะยาว โดยถูกกดดันจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ข้อมูลค้าปลีกเดือนธ.ค.ที่ออกมาย่ำแย่ได้ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันที่อ่อนแรงลง เช่นเดียวกับหุ้นสื่อสารและสาธารณูปโภคที่อ่อนตัวลง ด้านหุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์และเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้น

หุ้นอีซี่เจ็ต สายการบินราคาประหยัดรายใหญ่ ทะยาน 4.73% เป็นแกนนำหุ้นบวก หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนัการลงทุน ตามด้วยหุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป และเอ็นเอ็มซี เฮลท์ ที่ปรับตัวขึ้น 2.58% และ 2.56% ตามลำดับ

หุ้นบริษัทข้ามชาติได้อานิสงส์จากเงินปอน์ที่อ่อนค่าลง โดยหุ้นบริติช โทแบคโค พุ่ง 2.26% หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ กรุ๊ป บวก 1.77%

หุ้นแอสตร้าเซนเนก้าบวก 1.25% หลังยาสองตัวผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในญี่ปุ่น

ส่วนหุ้นลบนำโดย คิงฟิชเชอร์ ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 2.30% และเซนทริกา บริษัทสาธารณูปโภค ลดลง 1.38%

หุ้นค้าปลีกลบ โดยหุ้นเน็กซ์ ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ลดลง 1.65% หุ้นมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ลดลง 0.72% อย่างไรก็ดี หุ้นเบอร์เบอร์รี่ ผู้ผลิตสินค้าหรู ดีดตัวขึ้น 0.50% สวนทางตลาด

ด้านหุ้นซูเปอร์มาร์เก็ต หุ้นเทสโก้ ลดลง 0.91% เซนส์บิวรี่ บวก 0.12% และดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ขยับขึ้น 0.09%

หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวลง นำโดย บีพี ที่ร่วงลง 1.28% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 0.37% หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 69 ดอลลาร์/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ