ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเกือบ 100 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทดีดตัวคืนนี้ ขานรับผลประกอบการสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 24, 2018 20:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐสามารถพ้นวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) หลังจากที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศถึงวันที่ 8 ก.พ.

ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 91 จุด หรือ 0.35% สู่ระดับ 26,292 จุด

นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยในบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 นั้น บริษัทจำนวน 76.5% รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่ผลการสำรวจระบุว่า บริษัทจดทะเบียนมีกำไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.4% ในไตรมาส 4

บริษัทคอมแคสต์รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 4 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไร 49 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 47 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 2.192 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.182 หมื่นล้านดอลลาร์

บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ โดยบริษัทมีกำไร 27 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 29 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 3.140 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.406 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี GE คาดการณ์กำไรที่ระดับ 1.00-1.07 ดอลลาร์/หุ้นในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เบเกอร์ ฮิวจ์ บริษัทในเครือของ GE ซึ่งให้บริการขุดเจาะน้ำมัน เปิดเผยรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4 โดยบริษัทระบุว่ามีรายได้ที่ระดับ 5.76 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.61 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี จากการที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้ประสบภาวะขาดทุน 82 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับกำไร 147 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เมื่อหักรายการพิเศษ บริษัทมีกำไร 15 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 14 เซนต์/หุ้น

ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ว่า สหรัฐเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจ และการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา

ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวเชิญชวนให้นักลงทุนเข้าลงทุนในสหรัฐ โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจมีการขยายตัว 3% หรือมากกว่า โดยสหรัฐยังคงเป็นแหล่งที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุน

นายมนูชินระบุว่า สหรัฐให้การสนับสนุนการค้าที่เสรี และเป็นธรรม และเสริมว่าการขยายตัวที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และไม่ขัดแย้งกับนโยบาย"อเมริกาต้องมาก่อน"ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ