ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 21.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,124.34 จุด เพิ่มขึ้น 161.86 จุด หรือ 0.65%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.886% ในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะ 2.950% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีในวันพุธ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.171%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในวันพุธ หลังจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 30-31 ม.ค.ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.50-1.75% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในจำนวน 3 ครั้งของปีนี้
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
เจ้าหน้าที่เฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ได้แก่ นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์, นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้, นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก, นายเอริก โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน และนายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันที่ 28 ก.พ. โดยจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกของเขาต่อรัฐสภาสหรัฐ