ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง ขณะนลท.จับตาการเมืองและนโยบายการค้าสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 16, 2018 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง ในขณะที่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐและยุโรป ภายหลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เตรียมปลดพลโท เฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ อย่างไรก็ดี นักลงทุนได้ซึมซับข่าวการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัสเซียโดยรัฐบาลสหรัฐแล้ว ในขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์นโยบายการค้าของสหรัฐว่า จะมีการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของจีนตามที่มีรายงานข่าวหรือไม่

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,750.59 จุด ลดลง 53.36 จุด, -0.24% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 31,442.49 จุด ลดลง 98.61 จุด, -0.31% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,841.79 จุด ลดลง 3.48 จุด, -0.19%

สื่อต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงวอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เตรียมปลดพลโท เฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ

รายงานระบุว่า ขณะนี้ปธน.ทรัมป์กำลังเฟ้นหาบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนพลโทแมคมาสเตอร์ ก่อนที่จะประกาศการตัดสินใจดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้พลโทแมคมาสเตอร์รู้สึกอับอายขายหน้า

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยปธน.ทรัมป์ได้แต่งตั้งนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ให้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน และให้นางจีน่า แฮสเปล รองผอ.CIA ขึ้นเป็นผอ.CIA คนใหม่

กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัสเซียจำนวน 13 คน รวมทั้งหน่วยงานของรัสเซียอีกจำนวนหนึ่ง ในข้อหาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559

มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลให้มีการอายัดทรัพย์สิน และผลประโยชน์ในทรัพย์สินที่อยู่ในสหรัฐของผู้ที่ถูกคว่ำบาตร และผู้ที่อยู่ในสหรัฐจะถูกห้ามมิให้ทำธุรกรรมต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ สิงคโปร์เผยยอดส่งออกที่ไม่นับรวมน้ำมันอ่อนตัวลง 5.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับสถิติปีที่แล้ว เนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตรงกับเดือนก.พ.ในปีนี้ ขณะที่เมื่อปีที่แล้วเทศกาลตรุษจีนตรงกับช่วงปลายเดือนม.ค.

สถิติที่ปรับตัวลงดังกล่าว นับเป็นการส่งสัญญาณความเสี่ยงที่สูงขึ้นสำหรับสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการค้ามากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ