ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของอังกฤษ ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติดีดตัวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,061.27 จุด เพิ่มขึ้น 18.34 จุด หรือ +0.26%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ปรับตัวขึ้นเพียง 2.7% ในเดือนก.พ. โดยต่ำกว่าระดับ 3.0% ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งแตะ 3.1% ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555
ONS ระบุว่า การชะลอตัวของดัชนี CPI ในเดือนก.พ. ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
การอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหุ้นบริษัทข้ามชาติ โดยหุ้นบาร์เรตต์ ดิเวลล็อปเมนท์ ดีดตัวขึ้น 1.3% หุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ พุ่งขึ้น 1.5% และหุ้นเพอร์ซิมมอน เพิ่มขึ้น 0.8%
หุ้นเบลล์เวย์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน พุ่งขึ้น 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2561 เพิ่มขึ้น 17%
ส่วนหุ้นไมโคร โฟกัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ร่วงลง 1.9% หลังจากนายคริส ซู ซีอีโอของบริษัทได้ประกาศลาออกตำแหน่ง นอกจากนี้ หุ้นไมโคร โฟกัสยังได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561
นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย