ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 86.38 จุด วิตกสงครามการค้า,เงินปอนด์แข็งฉุดตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 23, 2018 07:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราค่าจ้างในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,952.59 จุด ลดลง 86.38 จุด หรือ -1.23%

ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ โดยในระหว่างการซื้อขายเมื่อคืนนี้ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.4217 ดอลลาร์ จากระดับ 4140 ดอลลาร์

ทั้งนี้ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า BoE อาจพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราค่าจ้างในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า อัตราค่าจ้างเฉลี่ย ซึ่งรวมโบนัส ขยายตัว 2.8% ในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนธ.ค. และหากไม่นับรวมโบนัส อัตราค่าจ้างเดือนม.ค.ขยายตัว 2.6%

หุ้นฮัลมา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ดิ่งลง 2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561 อันเนื่องมาจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ

หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ดีดตัวขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทประกาศยุติการเจรจาเสนอซื้อธุรกิจดูแลสุขภาพจากไฟเซอร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ