ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังสงครามการค้าส่งสัญญาณคลี่คลาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 10, 2018 07:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ก่อนที่จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 375.30 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,263.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.15 จุด หรือ +0.10% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,261.75 จุด เพิ่มขึ้น 20.48 จุด หรือ +0.17% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,194.75 จุด เพิ่มขึ้น 11.11 จุด หรือ +0.15%

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ คาดหวังว่าสหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ก่อนที่จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า และสหรัฐไม่มีเป้าหมายที่จะทำสงครามการค้า

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า จีนจะเป็นฝ่ายที่ยอมอ่อนข้อต่อสหรัฐ โดยจะยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า และทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงในด้านภาษีที่จะเป็นไปในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน

หุ้นดอยซ์แบงก์ พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากดอยซ์แบงก์ ได้ประกาศแต่งตั้งนายคริสเตียน เซวิง ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ แทนนายจอห์น ไครอัน โดยนายไครอันจะลงจากตำแหน่งซีอีโอในวันที่ 30 เม.ย.นี้

ทั้งนี้ การประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ของดอยซ์แบงก์สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนีแห่งนี้มีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูธุรกิจของธนาคาร หลังจากที่ดอยซ์แบงก์เผชิญกับความไม่แน่นอนทางธุรกิจมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี

หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากโรลส์-รอยซ์ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อขายกิจการ L'Orange ซึ่งเป็นธุรกิจจัดหาระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงในเยอรมนี ให้กับบริษัทวู้ดวาร์ด อิงค์ คิดเป็นมูลค่าราว 700 ล้านยูโร (859.5 ล้านดอลลาร์)

อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับรัสเซียต่างพากันร่วงลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซีย โดยหุ้น Evraz ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่และเหล็กที่ดำเนินงานในรัสเซีย และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ร่วงลง 14% หุ้น United Company Rusal ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอลูมิเนียมของรัสเซีย ทรุดฮวบลง 50% หุ้นโพลีเมทัล อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองที่ดำเนินธุรกิจในรัสเซีย ดิ่งลง 18% และธนาคารเรฟเฟเซน แบงก์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นธนาคารของออสเตรียที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในรัสเซีย ร่วงลง 12%

ทั้งนี้ บริษัท United Company Rusal ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอาจทำให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้บางราย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรชาวรัสเซียจำนวน 24 คน ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งหน่วยงานและภาคธุรกิจของรัสเซียจำนวน 14 แห่ง ในข้อหาดำเนินการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการยึดครองคาบสมุทรไครเมีย, สร้างความรุนแรงในยูเครน, ให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่รัฐบาลซีเรีย และบ่อนทำลายประชาธิปไตยของชาติตะวันตก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ