ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 62.52 จุด รับหุ้นค้าปลีกพุ่ง,บอนด์ยีลด์ชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 17, 2018 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 1 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,768.93 จุด เพิ่มขึ้น 62.52 จุด หรือ +0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,722.46 จุด เพิ่มขึ้น 11.01 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,398.30 จุด เพิ่มขึ้น 46.67 จุด หรือ +0.63%

หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า หลังจากเมซีส์ อิงค์ เปิดเผยกำไรในไตรมาส 1 ที่ระดับ 48 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 37 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เมซีส์ยังระบุว่า ยอดขายพุ่งขึ้น 4.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.4%

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดได้ช่วยหนุนราคาหุ้นเมอร์ซีส์ปิดตลาดพุ่งขึ้น 10.8% และยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเจ.ซี. เพนนี พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นโคห์ล คอร์ป พุ่งขึ้น 2% หุ้นนอร์ดสตรอม ดีดตัวขึ้น 2.4% หุ้นทาร์เก็ต ทะยานขึ้น 3% หุ้นวอลมาร์ท ปรับตัวขึ้น 1.9% และหุ้นเซียร์ส โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 8.5%

หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ พุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1 ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ ทะยานขึ้นไปกว่า 37% นับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์อาร์บีเอสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ และยังได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 80 ดอลลาร์

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับ 3.063% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.188%

สำหรับปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ มาจากการที่นักลงทุนหันกลับมาซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมระดับรัฐมนตรีกับเกาหลีใต้ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยอ้างถึงการซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐที่ดำเนินไปในขณะนี้ นอกจากนี้ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังขู่ที่จะยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้

ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ซึ่งปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 3.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.287 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนที่ดินในการสร้างบ้าน และการขาดแรงงานทักษะ

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ