ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 395.87 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.ปีนี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,637.51 จุด เพิ่มขึ้น 23.00 จุด, +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,859.17 จุด เพิ่มขึ้น 80.38 จุด, +1.03% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันปิดทำการจันทร์ที่ 21 พ.ค. เนื่องในวัน Whit Monday
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายยังได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาดุลการค้าในอนาคต
ทั้งนี้ การเปิดเผยของนายมนูชินมีขึ้นหลังจากที่จีนและสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับผลการเจรจาหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทำสงครามการค้าระหว่างกัน และยังได้ตกลงที่จะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐมีต่อจีน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะยังคงเจรจากันเกี่ยวกับการที่จีนจะนำเข้าพลังงานและสินค้าเกษตรจากสหรัฐมากขึ้น เพื่อลดการเกินดุลการค้าสินค้าและบริการต่อสหรัฐมากถึง 3.35 แสนล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลนส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทประกาศแผนเข้าซื้อกิจการสายการบินนอร์เวเจียน แอร์ ชัทเทิล ในวงเงิน 1.52 พันล้านปอนด์
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ พุ่งขึ้น 3% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ มีแนวโน้มที่จะประกาศปิดร้านค้าเพิ่มอีกหลายแห่ง ในระหว่างการประกาศผลประกอบการในวันพุธนี้
หุ้นไรอันแอร์ พุ่งขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในปีงบการเงิน 2560 เพิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทคาดการณ์ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในวันข้างหน้า
หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอส ร่วงลง 1.3% หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลง เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า