ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า โอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จะไม่เกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้ในเดือนหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,788.44 จุด ลดลง 89.01 จุด หรือ -1.13%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนแรงลง หลังจากปธน.ทรัมป์ว่า มีโอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จะไม่เกิดขึ้นในเดือนหน้า พร้อมกับเน้นย้ำว่าการประชุมสุดยอดจะไม่เกิดขึ้น หากเกาหลีเหนือไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะตัดสินใจในสัปดาห์หน้าว่าจะเดินหน้าจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือ ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์หรือไม่
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาไม่พอใจต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีขึ้นที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากสต็อกน้ำดิบสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 3.1% หุ้นบีพี ดิ่งลง 1.9%
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดตัวขึ้น 5.2% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 1
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน