ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.13 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 101.87 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9069 ฟรังค์ จากระดับ 0.9044 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3410 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3434 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6946 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6980 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9385 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9405 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ในการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟด ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพุธที่ 29 ก.ค.นั้น เฟดอาจจะส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 90.9 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 86.4 โดยดัชนีเดือนก.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักวิเคราะห์คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้ เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนยูโรอ่อนแรงลงหลังจากมีรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) มีมติใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย อันเนื่องมาจากความขัดแย้งที่ยังไม่คลี่คลายลงในยูเครน รวมถึงกรณีที่รัสเซียยังคงให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันงนี้ โดยนักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.5% หลังจากที่หดตัวลง 2.9% ในไตรมาสแรก อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างผิดปกติในสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 250,000 ราย