ค่าเงินยูโรแทบไม่เปลี่ยนแปลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3369 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3368 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6811 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 102.45 เยน เทียบกับระดับ 102.23 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9073 ฟรังค์ จากระดับ 0.9077 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9276 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนก.ค.ทรงตัว หลังจากที่ขยายตัว 0.2% ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวที่อ่อนแรงที่สุดนับแต่เดือนม.ค.
ยอดค้าปลีกสหรัฐทรงตัวในเดือนก.ค. เนื่องจากชาวอเมริกันชะลอการซื้อรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตามห้างสรรพสินค้า แม้ว่ายอดขายอาหารและเสื้อผ้าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยน หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2/2557 หดตัวลง 6.8% เมื่อเทียบรายปี