ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2200 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2178 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5557 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5519 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.46 เยน เทียบกับระดับ 120.73 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9856 ฟรังค์ จาก 0.9874 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8109 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8097 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับฐานลง หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักนั้น ได้พุ่งขึ้นแตะ 90.093 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย.2549 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 5.0% ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งแกร่งสุดในรอบกว่าทศวรรษ
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ดอลลาร์ได้ลดช่วงบวกลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางมุมมองที่ว่าการทะยานขึ้นเมื่อเร็วๆนี้เป็นการปรับตัวที่รวดเร็วเกินไป ขณะที่ก่อนหน้านี้ แนวโน้มขาขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 9,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 290,000 ราย และนับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย