สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ 117.51 เยน เทียบกับระดับ 118.40 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9180 ฟรังก์ จากระดับ 0.9246 ฟรังก์
ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2687 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1293 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1313 ดอลลาร์ เงินปอนด์อังกฤษแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.5057 ดอลลาร์ จาก 1.5053 ดอลลาร์
ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7783 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7756 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยน แต่เคลื่อนไหวในทิศทางแตกต่างกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ภายหลังภายหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2.6% หลังจากที่เติบโต 4.6% และ 5% ในไตรมาส 2 และ 3 ตามลำดับ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจีดีพีมีการขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 4
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การขยายตัวของจีดีพีในอัตราชะลอตัวลงในไตรมาส 4 นั้น สะท้อนว่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น การใช้จ่ายของรัฐบาลกลางลดลง และการลงทุนนอกกลุ่มสินทรัพย์ถาวรที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งมีสัดส่วนเกิน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ ขยายตัว 4.3% ในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 3.2% ในไตรมาส 3