ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1338 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1335 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ 1.5455 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.93 เยน เทียบกับระดับ 118.87 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9501 ฟรังก์ จาก 0.9506 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7826 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7798 ดอลลาร์
ในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปี นางเยลเลนได้เน้นย้ำว่า คำมั่นสัญญาของเฟดในการอดทนรอนั้นหมายความว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยในการประชุมนโยบายของเฟดช่วง 2 ครั้งหน้า
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงดังกล่าว โดยประธานเฟดกล่าวว่า แม้มีความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ แต่ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงไม่มีงานทำหรือทำงานไม่เต็มศักยภาพ ขณะที่การเติบโตด้านค่าจ้างยังคงซบเซา และเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ของเฟด
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังเผชิญปัจจัยลบจากผลสำรวจของ Conference Board ที่บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงมากกว่าคาดในเดือนก.พ. หลังทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีในเดือนม.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงสู่ระดับ 96.4 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว หลังพุ่งขึ้นสู่ระดับ 103.8 ในเดือนม.ค.