ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0872 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5387 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5471 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.05 เยน เทียบกับระดับ 121.50 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9527 ฟรังก์ จาก 0.9453 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7733 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7827 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 517,000 ยูนิต ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้น 6% สู่ระดับ 510,000 ยูนิตในเดือนที่แล้ว
ส่วนผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 5.04% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.99% ของเดือนก.พ. และสูงกว่าระดับ 4.60% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขยับขึ้นในเดือนพ.ค. หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนเม.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 95.4 ในเดือนพ.ค. หลังแตะระดับ 94.3 ในเดือนเม.ย. และพุ่งแตะระดับ 101.4 ในเดือนมี.ค. ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอยู่ที่ระดับ 95.0 ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ การปรับตัวของตลาดเงินยังคงสะท้อนถึงถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันศุกร์ ที่ระบุว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้นตามคาด ก็จะมีความเหมาะสมที่จะเริ่มดำเนินการขั้นแรกในการปรับเพิ่มเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้