ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1144 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1248 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5731 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5736 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 122.33 เยน จาก 122.46 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9349 ฟรังก์ จาก 0.9264 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7714 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7703 ดอลลาร์
สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันเมื่อนายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ กล่าวเมื่อเช้าวานนี้ว่า กรีซจะไม่ชำระคืนเงินกู้แก่ IMF ซึ่งมีกำหนดเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารกรีซ 4 แห่ง ลงสู่ระดับ SD หรือ ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน (selective default) โดยระบุถึงการที่รัฐบาลใช้คำสั่งปิดธนาคาร และจำกัดการถอนเงินในเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) ขณะที่ S&P เชื่อว่าธนาคารเหล่านี้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ภายใน 6 เดือน หากไม่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสหภาพยุโรป (EU)
ส่วนดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งขานรับผลสำรวจของ Conference Board ที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเดือนพ.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นสู่ระดับ 101.4 ในเดือนมิ.ย. หลังแตะระดับ 94.6 ในเดือนพ.ค.