ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1003 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1136 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5484 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5513 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.43 เยน จาก 122.84 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9497 ฟรังก์ จาก 0.9409 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7406 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7447 ดอลลาร์
เงินยูโรร่วงลงหลังจากทะยานขึ้นในช่วงแรกที่ขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงหนี้สินของกรีซ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่กรีซจะต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนไปได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวยังต้องได้รับการพิจารณาอนุมัติจากรัฐสภาของประเทศสมาชิก ซึ่งรวมถึงรัฐสภากรีซ ขณะที่ระบบการธนาคารของกรีซยังคงหยุดชะงัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังไม่ได้ปรับเพิ่มเพดานวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) ที่ให้แก่ธนาคารของกรีซ
ส่วนดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากตลาดคาดการณ์เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสนี้ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่แล้วถึงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ ขณะที่ระบุว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่าค่าจ้างกำลังฟื้นตัวขึ้น
"ดิฉันคาดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการขั้นแรกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ และปรับนโยบายการเงินเป็นแบบปกติ" นางเยลเลนกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างรอดูยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในเวลา 19.30 น.วันนี้ ตามเวลาไทย เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ