ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือระดับ 111 เยนในวันนี้ โดยถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้หนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในไม่ช้า
ณ เวลา 19.06 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.9% สู่ระดับ 111.21 เยน หลังจากดีดตัวแตะ 111.44 เยนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่ยูโรทะยานขึ้น 1.09% สู่ระดับ 123.82 เยน และขยับขึ้น 0.18% สู่ระดับ 1.1134 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ทรงตัวที่ 95.70
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นกว่า 1% ของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ขานรับแนวโน้มที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคออกไปอีก 2 ปีครึ่ง จากกำหนดการเดิมในปีหน้า
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า หลังจากที่ได้รับฟังถ้อยแถลงของนางเยลเลน ที่กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทางบริษัทก็ได้ระบุความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ไว้ที่ระดับ 35% ขณะที่เดือนก.ค.อยู่ที่ 35% เช่นกัน ส่วนเดือนก.ย.อยู่ที่ 20%
รายงานระบุว่า ถ้อยแถลงของนางเยลเลนเป็นการแสดงความคาดหวังว่าเฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หรือเดือนก.ค. รวมทั้งอาจเป็นเดือนก.ย. ถึงแม้เดือนก.ย.อาจไกลเกินกว่าความหมายของคำว่า "ไม่กี่เดือนข้างหน้า" ของนางเยลเลน
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น
"หากเศรษฐกิจยังคงขยายตัว และตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น ซึ่งดิฉันก็คาดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอย่างระมัดระวังก็ถือว่ามีความเหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว
นางเยลเลนยังระบุว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก นอกจากนี้ ดอลลาร์ และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%