สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 109.51 เยน จากระดับ 110.54 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9883 ฟรังก์ จากระดับ 0.9930 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3072 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3132 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1182 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1139 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.4406 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4477 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7254 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7223 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนั้น เป็นไปอย่างผันผวน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐดิ่งลง 1.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่ร่วงลง 4.1% ในเดือนม.ค.2011 ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.
ส่วนผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกัน 3 เดือนในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐสามารถรับมือกับการแข็งค่าของดอลลาร์ และภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 51.3% ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.8% ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันนั้น อาจจะไม่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐ ในวันที่ 21 มิ.ย. โดยการเข้าแถลงนโยบายดังกล่าวของนางเยลเลนจะมีขึ้นหลังจากที่เฟดจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 มิ.ย.