สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) ขานรับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU)
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1313 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4677 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4674 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7470 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7458 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 104.76 เยน จากระดับ 103.93 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9613 ฟรังก์ จากระดับ 0.9627 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2794 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2809 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนางเยลเลนได้เข้าแถลงนโยบายการเงิน และรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่าอังกฤษถอนตัวจาก EU
สำหรับประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น นางเยลเลนแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังได้ระบุถึงการชะลอตัวของการจ้างงานในเดือนเม.ย.และพ.ค. และระบุว่าเฟดจะจับตาอย่างระมัดระวังเพื่อพิจารณาว่าภาวะชะลอตัวดังกล่าวเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว หรือเป็นสัญญาณบ่งชี้ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น
นักลงทุนจับตานางเยลเลนจะเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้