สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) ในขณะที่นักลงทุนจับตาผลการลงประชามติในอังกฤษอย่างใกล้ชิด โดยตลาดเงินนิวยอร์กได้ปิดทำการไปก่อนที่อังกฤษจะปิดหีบการลงประชามติในเวลา 22.00 น. ตามเวลากรุงลอนดอน หรือ 04.00 น.ของวันศุกร์ตามเวลาไทย
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1302 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4803 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4681 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7598 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7493 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 105.82 เยน จากระดับ 104.43 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9574 ฟรังก์ จากระดับ 0.9587 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2785 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2845 ดอลลาร์แคนาดา
นักลงทุนจับตาผลการลงประชามติในอังกฤษอย่างใกล้ชิด โดยผลสำรวจของ ComRes ระบุว่า กลุ่ม IN มีคะแนน 48% ขณะที่กลุ่ม OUT มี 42% ส่วนผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า กลุ่ม IN มีคะแนน 51% ขณะที่กลุ่ม OUT มี 49%
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงมากเกินคาดในเดือนพ.ค. หลังพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 ปีในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ กระทรวงระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 6.0% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 551,000 ยูนิต
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่จะลดลงสู่ระดับ 560,000 ยูนิตในเดือนพ.ค.
ส่วนยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.ได้รับการปรับลดลง สู่ระดับ 586,000 ยูนิต จากเดิมที่ 619,000 ยูนิต แต่ยังคงเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2008
ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 259,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 43 ปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะอยู่ที่ระดับ 270,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 68 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 2,250 ราย สู่ 267,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว