ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเยน หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) หลังจากแถลงการณ์การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 105.64 เยน จากระดับ 104.70 เยน และแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3216 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3202 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9915 ฟรังก์ จากระดับ 0.9926 ฟรังก์

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1009 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0986 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.3172 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3143 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะ 0.7464 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7507 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ แต่ เฟดได้เปิดเผยแถลงการณ์ภายหลังการประชุม ซึ่งได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ถ้อยแถลงของเฟดว่า "ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจได้ลดน้อยลง" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ไม่ได้ปรากฎในแถลงการณ์เดือนที่แล้ว และเป็นการเปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นอกจากนี้ เฟดยังได้แสดงมุมมองทางเศรษฐกิจว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ตลาดแรงงานแข็งแกร่งขึ้นในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ปรับตัวอ่อนแอในเดือนพ.ค. ส่วนเงินเฟ้อยังคงซบเซา และจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะใกล้ แต่คาดว่าจะปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลงในเดือนมิ.ย. โดยทรุดตัวลง 4.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 หลังจากลดลง 2.8% ในเดือนพ.ค.