สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันศุกร์นี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 100.29 เยน จากระดับ 100.21 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9618 ฟรังก์ จากระดับ 0.9596 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2959 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2856 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1320 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1325 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.3131 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3081 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปิดทรงตัวที่ 0.7624 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นางเยลเลนอาจส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันศุกร์นี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอสคาดว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่แจ็คสันโฮลครั้งนี้ พร้อมกับแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
ขณะที่นักวิเคราะห์จากธนาคารบาร์เคลย์สคาดว่า ในการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮลครั้งนี้ นางเยลเลนจะส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ก่อนหน้านี้นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวแสดงความคิดเห็นในการประชุมเศรษฐกิจซึ่งจัดขึ้นที่รัฐโคโลราโด โดยระบุว่า เฟดใกล้จะบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับการจ้างงาน และการผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า รองประธานเฟดยังคงเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ด้านนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เมื่อพิจาณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในประเทศ
การแสดงความเห็ยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดดังกล่าวหนุนกระแสคาดการณ์ในตลาดที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อดอลลาร์