ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเยน เหตุตัวเลขจ้างงานหนุนคาดเฟดขึ้นดบ.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.44 เยน จากระดับ 103.10 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3121 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3088 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9832 ฟรังก์ จากระดับ 0.9840 ฟรังก์

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1152 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1137 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.3128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3078 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7516 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7505 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจาก ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเดือนส.ค.ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์นั้น ทำให้มีแนวโน้มว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่รัฐบาลสหรัฐจะรายงานในวันพรุ่งนี้ อาจเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8% ในเดือนส.ค. อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของของชิคาโก้ประจำเดือนส.ค.ได้ปรับตัวลดลงมากกว่า 4 จุด แตะที่ 51.5 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 53.0