ดอลลาร์ปรับตัวในกรอบแคบ หลังสหรัฐเผยตัวเลขเศรษฐกิจไร้ทิศทาง

ดอลลาร์ปรับตัวแคบในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ที่ไร้ทิศทาง

ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.11% สู่ระดับ 102.51 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.01% สู่ระดับ 115.20 เยน และร่วงลง 0.12% สู่ระดับ 1.1236 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.13% สู่ระดับ 95.458

ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงมากกว่าคาดในวันนี้ ขณะเดียวกัน ก็เปิดเผยดัชนี PPI ที่ทรงตัว และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลงมากกว่าคาดในเดือนส.ค. โดยลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน

ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากยอดซื้อรถยนต์ที่ลดลง 0.9% ในเดือนที่แล้ว

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในเดือนส.ค. จากการทรุดตัวของการผลิตในภาคสาธารณูปโภค

ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.4% ในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 0.3% ในเดือนส.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัวในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่ราคาพลังงานและภาคบริการร่วงลง

ก่อนหน้านี้ ดัชนี PPI ร่วงลง 0.4% ในเดือนก.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1,000 ราย สู่ระดับ 260,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 265,000 ราย

นักวิเคราะห์ระบุว่า ดอลลาร์จะยังคงปรับตัวในช่วงแคบ ก่อนถึงการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า