สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อภาคธนาคารของสหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 100.75 เยน จากระดับ 100.32 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9713 ฟรังก์ จากระดับ 0.9708 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3128 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 0.7665 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1212 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1220 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ระดับ 1.3015 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7686 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7639 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนหลังจากนางเยลเลนเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ธนาคารสหรัฐมีเงินทุนในระดับที่เพียงพอ พร้อมกับกล่าวว่าธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ในภาคพาณิชย์และอุตสาหกรรมยังคงมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 8 แห่งของสหรัฐได้เพิ่มฐานเงินทุน 2 เท่า สู่ระดับ 8 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่ได้เพิ่มการถือครองสินทรัพย์คุณภาพสูงอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
นางเยลเลนกล่าวว่า ภาคธนาคารพึ่งพาเงินทุนระยะสั้นน้อยลง และมีประสิทธิภาพในการทำกำไรมากขึ้น นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงิน
ส่วนข่าวเศรษฐกิจที่มีผลต่อการซื้อขายในตลาดนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ทรงตัวในเดือนส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อเครื่องบินที่ลดลง 21.9%
ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2559 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค. ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน