สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากรายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 104.23 เยน จากระดับ 104.27 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9937 ฟรังก์ จากระดับ 0.9942 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3328 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3378 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0901 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0876 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2190 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2215 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7649 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7601 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงหลังจากหลังจาก Conference Board เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 104.1 ในเดือนก.ย. โดย Conference Board ได้ทำการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะธุรกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอยู่ที่ระดับ 101.5 ในเดือนต.ค. อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากการแสดงความเห็นของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ โดยนายวิลเลียมส์ได้กล่าวว่า เฟดควรเริ่มดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเคลื่อนตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และการปรับขึ้นดอกเบี้ยควรเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.