ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก รับจนท.เฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 19, 2016 07:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.62 เยน จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 109.91 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0096 ฟรังค์ จากระดับ 1.0067 ฟรังค์

เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0604 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0629 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับ 1.2354 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2418 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7343 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7412 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้นทะลุระดับ 101 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2003 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในตะกร้าเงิน จากแรงหนุนของการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยล่าสุดนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า มากกว่าที่จะปล่อยเวลาให้ล่าช้าออกไป ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวเมื่อวานนี้เช่นกัน โดยเขาสนับสนุนการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และตั้งข้อสังเกตุถึงทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า โดยคำกล่าวของนายบูลลาร์ดในวันนี้ สอดคล้องกับที่เขากล่าวเมื่อวันพุธว่า จะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ถ้าหากเฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดทั้งสองคนมีความสอดคล้องกับที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า และจะมีความเสี่ยง หากเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป เนื่องจากจะทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วยิ่งขึ้นในอนาคต

ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ขณะเดียวกัน FOMC ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยระบุว่าเศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้น และอัตราเงินเฟ้อกำลังดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ