ดอลลาร์ปรับตัวเหนือระดับ 114 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก
ณ เวลา 20.16 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.09% สู่ระดับ 114.08 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับ 122.40 เยน และขยับขึ้น 0.1% สู่ระดับ 1.0728 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.03% สู่ระดับ 100.46
ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากที่ดิ่งลงสู่ระดับ 112 เยนเมื่อวันจันทร์ หลังจากที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวอิตาลีส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายมาซาโยชิ ซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารรายใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐว่า เขามีแผนที่จะลงทุนเป็นเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐ พร้อมสร้างงานใหม่อีก 50,000 ตำแหน่ง
ข่าวดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์กันว่าจะส่งผลให้มีการเทขายเยนจำนวนมากเพื่อแลกกับดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะขยายเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 6 เดือน เพื่อสกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการลงประชามติในอิตาลี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวอิตาลีส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาในภาคธนาคารของอิตาลี รวมทั้งจะบั่นทอนเสถียรภาพทางการเงินของยุโรปในที่สุด
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ECB จะขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน โดยให้สิ้นสุดในเดือนก.ย.2017 จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.2017 ขณะที่ ECB จะยังคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บางรายยังคาดว่า ECB อาจจะทำการผ่อนคลายข้อกำหนดในการซื้อพันธบัตร โดยจะอนุญาตให้สามารถเข้าซื้อพันธบัตรที่มีผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก รวมทั้งสามารถเข้าซื้อพันธบัตรที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี