สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) จากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 116.58 เยน จากระดับ 117.17 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0228 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0291 ฟรังก์สวิส
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0491 ดอลลาร์จากระดับ 1.0405 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2215 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7204 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7182 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนหน้าช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ หลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้านี้ ด้วยแรงหนุนจากความคาดหวังของนักลงทุนที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะดำเนินนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในปีหน้า
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. สู่ระดับ 265,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และนับเป็นสัปดาห์ที่ 95 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2514 ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 5.945 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% หรือ 3.4 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 6.53 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้ายังคงสูงกว่ายอดส่งออก
ทั้งนี้ ยอดส่งออกสินค้าในเดือนพ.ย.ลดลง ลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 1.217 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.870 แสนล้านดอลลาร์