ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์ดีดขึ้นหลังร่วงหนักวันก่อน ขณะสหรัฐเผยข้อมูลศก.หลายรายการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 19, 2017 07:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันอังคารจากการแสดงความเห็นของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐ หรือ Beige Book

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0662 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0707 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2282 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2395 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7533 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7562 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐเทียบเงินเยนแตะที่ระดับ 113.67 เยน จากระดับ 112.66 เยน ขณะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0047 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0025 ฟรังก์สวิส และปรับตัวขึ้นแตะ 1.3244 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3053 ดอลลาร์แคนาดา

ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากที่ร่วงลงเมื่อวันอังคาร สืบเนื่องมาจากการที่นายทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยระบุว่า บริษัทสหรัฐไม่สามารถแข่งขันกับจีนได้ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับสกุลหยวน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลของเขาจะยกเลิกนโยบายสนับสนุนดอลลาร์แข็งค่าของรัฐบาลชุดปัจจุบันของสหรัฐ

ขณะที่ในวันพุธได้มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน และค่าเช่าบ้านที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟด และเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2014 และเป็นครั้งแรกที่ดัชนี CPI พุ่งทะลุ 2% นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ย.

ดัชนี CPI ดังกล่าวบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราปานกลางเกือบทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.จนถึงสิ้นปี

โดยรายงานระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะที่การจ้างงานและเงินเฟ้อก็อยู่ในทิศทางที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐยังได้เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมดีดตัว 0.8% ในเดือนธ.ค. โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย.

ส่วนสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด แตะระดับ 67 ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนธ.ค.

ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาสหรัฐ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคารกลาง ทั้งในเรื่องการจ้างงานและราคาเงินเฟ้อ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งจะเปิดทางให้เฟดสามารถเริ่มลดระดับการให้การสนับสนุนที่ดำเนินการตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาลงได้ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุด้วยว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ