ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับ "เยลเลน" ส่งสัญญาณขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 15, 2017 07:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการแถลงรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยประธานเฟดระบุว่า การประวิงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานเกินไปนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.19 เยน จากระดับ 113.63 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0070 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0053 ฟรังก์สวิส

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0574 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0601 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2471 ดอลลาร์จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7651 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7650 ดอลลาร์

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น หลังประธานเฟดได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ ว่า การรอเป็นเวลานานเกินไปเพื่อปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และอาจทำให้เฟดต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะเสี่ยงต่อการกระทบตลาดการเงิน และฉุดเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

นางเยลเลนกล่าวว่า "ในการประชุมครั้งต่อๆไป คณะกรรมการเฟดจะประเมินดูว่าการจ้างงานและเงินเฟ้อยังคงปรับตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์หรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่อไปก็จะมีความเหมาะสม"

นอกจากนี้ นางเยลเลนยังระบุว่า ถึงแม้เฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเพื่อรักษานโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แต่การทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวกลับสู่ระดับปกติก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนางเยลเลนมีลักษณะที่เด็ดเดี่ยวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ทะยานขึ้นอย่างมาก โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.26% สู่ระดับ 101.220 ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2012 โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น

นักลงทุนยังคงจับตานางเยลเลนซึ่งจะแถลงต่อเป็นวันที่สอง โดยในวันนี้ นางเยลเลนจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเดือนธ.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.โดย Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ