ดอลลาร์ปรับตัวแคบเหนือระดับ 111 เยน ขณะที่ช่วงบวกถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
ณ เวลา 22.54 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.13% สู่ระดับ 111.40 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.38% สู่ระดับ 121.41 เยน และดีดตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับ 1.0896 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.02% สู่ระดับ 99.06
ดอลลาร์ได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น แต่ช่วงบวกถูกจำกัด จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับเกาหลีเหนือ แต่สหรัฐก็พร้อมที่จะใช้ช่องทางทางการทูต เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์เหนือคาบสมุทรเกาหลี
"มีความเป็นไปได้ ที่เรื่องนี้จะจบลงด้วยการที่สหรัฐมีความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือขั้นรุนแรง แต่เราก็อยากใช้ช่องทางทางการทูตในการคลี่คลาย แม้ว่าจะยากมากก็ตาม" ปธน.ทรัมป์กล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาความพยายามของสภาคองเกรสสหรัฐในการผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราว ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเที่ยงคืนนี้
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงคะแนนเสียงท่วมท้น 382-30 เสียงในวันนี้ เพื่ออนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการใช้จ่ายต่อไปอีก 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 5 พ.ค.
คาดว่าวุฒิสภาจะพิจารณาลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวภายในวันนี้ และหากผ่านความเห็นชอบ ก็จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามรับรองเป็นกฎหมายต่อไป
หากสภาคองเกรสไม่ให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวดังกล่าวภายในเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ก็จะส่งผลให้มีการปลดข้าราชการจำนวนหลายล้านคนเป็นการชั่วคราว และปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วน เนื่องจากขาดงบประมาณในการว่าจ้างพนักงาน รัฐบาลและสภาคองเกรสหวังว่าการขยายเส้นตายจากเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ไปอีก 1 สัปดาห์ เป็นวันที่ 5 พ.ค. จะช่วยให้มีเวลามากขึ้นในการเจรจากับพรรคเดโมแครตเพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณระยะยาววงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะทำให้รัฐบาลมีเงินทุนบริหารประเทศจนสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบันในวันที่ 30 ก.ย. และหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยเผชิญกับภาวะดังกล่าวในปี 2013 ซึ่งส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นเวลา 17 วัน