ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก เหตุนลท.ยังวิตกการเมืองสหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงวิตกกังวลเรื่องความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐ โดยหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอาจนำไปสู่การถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 1.1208 ดอลลาร์ จาก 1.1098 ดอลลาร์ ส่วนปอนด์แข็งขึ้นแตะ 1.3035 ดอลลาร์ จาก 1.2932 ดอลลาร์ ด้านดอลลาร์ออสเตรเลียก็ขยับขึ้นแตะ 0.7464 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.7417 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบเยนที่ระดับ 111.30 เยน จาก 111.55 เยน และอ่อนค่าเทียบฟรังก์สวิสแตะ 0.9732 ฟรังก์ จาก 0.9806 ฟรังก์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.79% สู่ระดับ 97.105 ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2559 ซึ่งเป็นวันประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทั้งนี้ นักลงทุนบางส่วนยังคงวิตกกังวลว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ และอาจนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ

การที่ปธน.ทรัมป์สั่งปลดนายเจมส์ โคมีย์ พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปธน.ทรัมป์กำลังแทรกแซงการทำงานของ FBI

สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้นายโคมีย์ยุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับรัฐบาลรัสเซีย ก่อนที่นายโคมีย์จะถูกปลดจากตำแหน่ง แต่ปธน.ทรัมป์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า การที่คนบางกลุ่มพยายามเรียกร้องให้มีการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น เป็นเรื่องน่าขัน เพราะเขาไม่ได้ทำผิดในคดีอาญา และยังคงยืนยันว่าตนเองและทีมหาเสียงเลือกตั้งไม่เคยสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซีย