ดอลลาร์ดิ่งลงในวันนี้ใกล้หลุดระดับ 113 เยน จากการที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะการเมืองในสหรัฐ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยแพร่อีเมลที่บ่งชี้ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว
ณ เวลา 19.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.69% สู่ระดับ 113.13 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.67% สู่ระดับ 129.75 เยน และขยับขึ้น 0.04% สู่ระดับ 1.1470 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.08% สู่ระดับ 95.59
หลังจากดีดตัวทะลุระดับ 114 เยนเมื่อคืนนี้ ดอลลาร์ก็ได้อ่อนตัวลงในวันนี้ โดยร่วงลงมากกว่า 1 เยน
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนพากันขายดอลลาร์ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ได้เผยแพร่อีเมลที่ชี้ให้เห็นว่า เขาได้รับข้อเสนอจากทนายความชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะสร้างความเสียหายต่อนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเป็นคู่แข่งของปธน.ทรัมป์ในขณะนั้น
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากถ้อยแถลงของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
ส่วนนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจทำให้เขาลังเลที่จะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
ตลาดการเงินจะจับตาถ้อยแถลงของนางเยลเลน เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลของเฟด
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เฟดเปิดเผยรายงานนโยบายการเงินของเฟด 5 วันล่วงหน้าก่อนการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานเฟด หลังจากที่ผ่านมา เฟดมักเปิดเผยรายงานในวันเดียวกับที่ประธานเฟดกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรส
เฟดชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็เพื่อให้สมาชิกสภาคองเกรสมีเวลามากขึ้นในการพิจารณารายงานนโยบายการเงินของเฟด ก่อนที่ประธานเฟดจะกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรส
รายงานดังกล่าวระบุว่า เฟดคาดการณ์ว่าความแข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้ยืนยันในการประชุมเดือนมิ.ย.ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ถ้าหากว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้ ซึ่งหมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในปลายปีนี้ หลังจากปรับขึ้นมาแล้วในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ขณะเดียวกัน เฟดยังคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ถ้าเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์